พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์

ความหมายของพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์

พิธีนี้เป็นพิธีที่มีชื่อเรียกค่อนข้างหลากหลาย โดยปกติแล้วจะถูกเรียกว่า พิธีรดน้ำสังข์ หรือ พิธีหลั่งน้ำสังข์ แต่จริงๆแล้วชื่อเต็มของพิธีนี้จะเรียกว่า พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์และประสาทพร โดยสมัยโบราณบ่าวสาวที่เข้าพิธีนี้จะถือเป็นการแต่งงานอย่างเป็นทางการ แต่ยุคปัจจุบันพิธีหลั่งน้ำฯจะเป็นส่วนหนึ่งของพิธีการแต่งงานแบบไทย ที่บ่าวสาวจะเลือกมีหรือไม่มีก็ได้ตามความต้องการของแต่ละคู่ โดยลักษณะสำคัญของพิธีนี้คือการที่คู่บ่าวสาวจะนั่งอยู่บนตั่งรดน้ำสังข์ ฝ่ายชายจะนั่งด้านขวามือของฝ่ายหญิง โดยจะมีหมอนรองมือและพานรองรับน้ำสังข์เป็นส่วนประกอบหลัก

อุปกรณ์ที่จะต้องใช้ในพิธีนี้ประกอบไปด้วย

  • ชุดตั่งรดน้ำสังข์
  • มาลัยมงคล 1 คู่
  • มงคลแฝด 1 คู่
  • แป้งเจิมหน้าผาก
  • น้ำมนต์
  • สังข์ 

ขั้นตอนของพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์

คู่บ่าวสาวจะเริ่มจากการเจริญพระพุทธมนต์กับพระประธานบริเวณโต๊ะหมู่ โดยจะเริ่มจากที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจุดธูปเทียนเพิ่มบูชาพระรัตนตรัย หลังจากนั้นคู่บ่าวสาวก็จะเดินมานั่งประจำที่ หลังจากนั้นจะเชิญประธานในพิธีซึ่งปกติจะให้คุณพ่อคุณแม่หรือญาติผู้ใหญ่เป็นประธาน ทำการเจิมหน้าผากให้กับผู้บ่าวสาว 3 จุด ซึ่งมีความหมายตามความเชื่อทางศาสนาพุทธ หมายถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

หลังจากที่ประธานเจิมหน้าผากให้กับผู้บ่าวสาวแล้วจะทำการคล้องมาลัยและสวมมงคลแฝดให้กับคู่บ่าวสาว ซึ่งโดยส่วนมากก็จะให้ประธานเป็นผู้เริ่มหลั่งน้ำสังข์ให้กับคู่บ่าวสาวเป็นท่านแรก ตามด้วยคุณพ่อคุณแม่ หลังจากนั้นก็จะให้ทางพิธีกรเรียนเชิญแขกทุกท่านที่มาร่วมงานเข้ามาร่วมอวยพรกับคู่บ่าวสาว

คู่บ่าวสาวควรจะมีเพื่อนเจ้าสาวอย่างน้อย 4 ท่านมาช่วยในพิธีนี้ โดยท่านแรกจะเป็นผู้ที่คอยเติมน้ำมนต์ลงในสังข์ ท่านที่ 2 จะมีหน้าที่คอยส่งสั่งให้กับแขกที่ขึ้นร่วมพิธี ท่านที่ 3 ควรจะรับสังข์ที่ประกอบพิธีเสร็จแล้วกลับมาให้เพื่อนเจ้าสาวท่านแรกเพื่อที่จะเติมน้ำอีกครั้ง ส่วนท่านที่ 4 จะมีหน้าที่ยื่นทิชชู่พร้อมของชำร่วยให้กับแขกที่ขึ้นร่วมพิธีทุกท่าน 

หลังจากที่แขกทั้งหมดที่มาร่วมงานได้เข้าร่วมพิธีและกล่าวอวยพรแก่คู่บ่าวสาวเสร็จแล้ว พิธีกรก็จะเรียนเชิญแขกผู้ใหญ่หรือท่านประธานขึ้นถอดมงคล 8 ออกจากศีรษะของคู่บ่าวสาว โดยจะมัดมงคลแฝดและส่งต่อให้กับทางบ่าวสาวนำไปบูชาไว้บนหิ้งพระที่บ้าน หลังจากนั้นก็จะให้คุณพ่อคุณแม่ของคู่บ่าวสาวเป็นคนประคองทางเจ้าบ่าวและเจ้าสาวให้ลุกขึ้นยืนพร้อมๆกัน โดยมีความเชื่อว่าคู่บ่าวสาวจะได้ประคับประคองการตลอดไป