สำหรับพิธีแห่ขันหมากและสู่ขอตามประเพณีจีนเราจะขอพูดถึงเฉพาะประเพณีที่ถือปฏิบัติการในยุคปัจจุบัน พิธีแต่งงานเป็นพิธีโบราณที่มีมาแต่ช้านาน ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยและพื้นที่ที่แตกต่างกัน ในปัจจุบันจะมีการผสมผสานระหว่างประเพณีไทยและประเพณีจีนอยู่บ่อยครั้งจนกลายเป็นประเพณีเฉพาะของคนไทยเชื้อสายจีน ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้จะพูดถึงการจัดงานแต่งงานในสถานที่จัดงานหรือโรงแรมเท่านั้น โดยจะไม่ได้แบ่งออกเป็นบ้านฝั่งเจ้าบ่าว และบ้านฝั่งเจ้าสาวตามธรรมเนียมปฏิบัติแบบโบราณ





โดยการขบวนขันหมากของชาวจีนจะเป็นการยกขบวนขันหมากที่ประกอบไปด้วยสินสอดและของมงคลตามความเชื่อของชาวจีนเพื่อไปทำการสู่ขอเจ้าสาว โดยพานขันหมากจะประกอบไปด้วย พานสินสอดทองหมั้น ส้มเช้งติดอักษรซังฮี้ ขนมจันอับ ซี่เช็กทึ้งหรือขนมสี่สี และอาจจะมีพานอื่นๆเสริมเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับความเชื่อและธรรมเนียมของแต่ละครอบครัว
โดยตลอดการเคลื่อนขบวนขันหมากจะไม่มีการกั้นประตู เพราะคนจีนมีความเชื่อว่างานมงคลไม่ควรจะมีอะไรมาขวางกั้นหรือเป็นอุปสรรค หลังจากที่ขบวนขันหมากเข้าสู่พื้นที่จัดงาน ก็จะมีผู้ใหญ่ฝั่งเจ้าสาวมาเป็นตัวแทนในการรับสินสอดและขันหมากที่ใช้ทำพิธีสู่ขอ ส่วนพานผลไม้และพานขนมมงคลอื่นๆจะถูกวางไว้บริเวณด้านข้างของเวที โดยทุกครั้งที่มีการส่งมอบขันหมากจากขบวนของเจ้าบ่าวให้แก่บ้านของเจ้าสาว ทางบ้านของเจ้าสาวจะมีการให้ซองอั่งเปาเพื่อแสดงความขอบคุณแก่ทุกท่านที่ร่วมขบวนขันหมาก
หลังจากนั้นพิธีกรจะทำการเชิญผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝั่งรวมถึงเถ้าแก่ และเจ้าบ่าวขึ้นเวทีและนั่งตามตำแหน่งที่ระบุไว้ โดยที่จะมีการกล่าวสู่ขอจากเถ้าแก่ของฝั่งเจ้าบ่าว และการกล่าวตอบรับจากเถ้าแก่ของฝั่งเจ้าสาวจึงจะอนุญาตให้เจ้าบ่าวไปรับตัวเจ้าสาวเข้ามาในห้องพิธีการ หลังจากนั้นก็จะเป็นการมอบสินสอดระหว่างครอบครัวเจ้าบ่าวให้ครอบครัวเจ้าสาว และตามธรรมเนียมจีนการแต่งงานจะถือว่าเจ้าสาวเมื่อแต่งงานแล้วจะกลายไปเป็นคนของบ้านเจ้าบ่าว จึงมีธรรมเนียมที่ครอบครัวเจ้าสาวที่มีฐานะจะมีการ “มอบสินทรัพย์ให้กับลูกสาวในวันแต่งงาน” เพื่อเป็นการแสดงว่าลูกสาวคนนี้มีค่า แต่งงานไปเข้าบ้านเจ้าบ่าวก็ไม่ได้ไปตัวเปล่า แต่นำทรัพย์สินเงินทองไปเพิ่มพูนให้กับบ้านเจ้าบ่าวตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเท้าเข้าบ้าน ดังนั้นจึงอยากให้บ้านเจ้าบ่าวดูแลลูกสาวคนนี้ให้ดีเหมือนอย่างที่คุณพ่อคุณแม่เจ้าสาวได้ดูแลมาด้วย








ต่อมาพิธีกรก็จะเชิญผู้ใหญ่บนเวทีร่วมกันโปรยข้าวตอกดอกไม้ธัญพืชมงคลและกล่าวอวยพรให้กับคู่บ่าวสาว โดยอาจจะมีวิธีการเรียงลำดับจากบ้านเจ้าบ่าวก่อนแล้วค่อยไปจบพิธีฝั่งบ้านเจ้าสาว และอีกหนึ่งความแตกต่างของธรรมเนียมจีนคือจะไม่มีการเก็บสินสอดและแบกขึ้นบ่า แต่จะตั้งโชว์ไว้จนกว่าจะจบพิธี การตั้งโชว์จะทำโดยการยกโต๊ะวางพานสินสอดออกไปวางไว้มุมใดมุมหนึ่งของเวทีเพื่อจัดสถานที่ให้พร้อมกับพิธีต่อไป นั่นคือพิธีสวมแหวนและทานขนมอี๋หรือขนมบัวลอยจีนนั่นเอง