สีผมจะขึ้นอยู่กับสไตล์ของ เจ้าบ่าวเจ้าสาว ด้วยแต่โดยหลักๆแล้วเราทำเพื่อบุคลิคภาพที่ดี ถ้าผู้ชายมีผมหงอกเยอะก็จะแนะนำให้ทำสีปิดผมหงอกไป ซึ่งโดยส่วนมากก็จะทำสีดำ สีน้ำตาลเข้ม อาจจะปรับสีให้ช่วยขับผิวให้ดูสว่างขึ้นได้ แต่เราแนะนำให้ควรปรึกษากับช่างผมมืออาชีพ เราไม่แนะนำให้ย้อมสีผมหรือฟอกสีผมด้วยสีจัดๆ เพราะในวันงานที่สำคัญในระดับครั้งเดียวในชีวิต ควรจะเลือกทำสีผมให้ดูเป็นธรรมชาติ คลาสสิคมากที่สุด

ส่วนเรื่องทรงผม อยากให้ตัดทรงที่เรามั่นใจและเป็นตัวเรามากที่สุด เราก็จะแนะนำให้ตัดผมก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 1 อาทิตย์ เพราะโดยปกติแล้วผู้ชายเวลาตัดผมช่วง 1-2 วันแรกมันจะมีความเด๋ออยู่นิดๆ การที่เผื่อระยะเอาไว้ให้ผมเริ่มยาวสักนิดนึงจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในวันงานได้ดีกว่า ผู้ชายส่วนมากจะไม่ชอบเข้าร้านทำผมบ่อยๆ ก็จะแนะนำให้ทำทีเดียวเลยคือทำสีกับตัดผมไปพร้อมกันเลย
ของเจ้าสาวก็เช่นเดียวกัน เผื่อเวลาเอาไว้สัก 1 อาทิตย์สำหรับการทำทรีทเม้นท์เพื่อบำรุงผม ทำสี และอาจจะตัดอีกสักเล็กน้อยเพื่อให้เข้ารูปเข้ารอย ให้ผมเป็นทรงสวยงาม ซึ่งอาจจะเผื่อเวลาให้เร็วกว่านั้นอีกสักหน่อยก็ได้ เพราะโดยปกติผมของผู้หญิงจะไม่ได้ยาวเร็วเท่ากับผู้ชายอยู่แล้ว ยิ่งช่วงใกล้ๆกับวันงานมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่คู่บ่าวสาวจะต้องทำ สามารถเผื่อเวลาได้ถึง 2 อาทิตย์ล่วงหน้า เพื่อที่จะทำให้ช่วงใกล้ๆกับวันงาน เจ้าสาวมีเวลาเพิ่มมากขึ้นที่จะไปเตรียมตัวทำอย่างอื่น ส่วนสีผมจะขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ผู้หญิงจะมีโทนสีที่กว้างกว่าผู้ชาย และอาจจะทำสีอ่อนได้มากกว่า แต่เราก็ไม่แนะนำให้ทำสีแฟชั่นมากๆ สำหรับพิธีแต่งงานมันควรจะต้องยังมีความคลาสสิคอยู่เหนือกาลเวลา ไม่แฟชั่นมากจนเกินไป การที่ต้องทำสีสว่างก็เพื่อให้สีผมช่วยขับสีผิวของเรามากขึ้น แต่ก็จะไม่แนะนำให้สว่างมากๆเพราะมันจะกลายเป็นเรื่องของแฟชั่นจนเกินงาม

ถ้าเจ้าสาวบางคนมีสไตล์ที่ชัดเจน เป็นคนที่ฟอกสีผมมาโดยตลอด อาจจะละไว้เป็นข้อยกเว้น เพราะสีผมจะกลายเป็นคาแรคเตอร์ของบุคคลนั้นๆ ซึ่งถ้าสีผมที่ไม่ใช่สีดำหรือน้ำตาลเข้ม โดยเฉพาะพวกสีผมที่ถูกฟอก หรือทำสีไฮไลท์มา เราก็จะแนะนำให้ปรึกษาช่างทำผมก่อน เพราะถ้าต้องใช้แฮร์พีชเพิ่ม volume ผมในวันงาน แฮร์พีชที่ช่างทำผมมีส่วนมากก็จะเป็นสี Standard ที่เจ้าสาวใช้กันทั่วๆไปอยู่แล้วซึ่งก็จะเป็นสีที่เน้นความคลาสสิค แต่โทนสีอาจจะไม่ Match กับสีผมเจ้าสาวที่มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน ที่เราควรจะแจ้งช่างก่อนเพื่อให้ช่างได้ทราบว่าจะต้องเตรียมแฮร์พีชเป็นสีโทนพิเศษหรือเปล่า ช่างทำผมจะได้เอาแฮร์พีชไปทำสีเพื่อให้แมทกับสีผมของเรา ซึ่งอาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อันนี้อยู่ที่แล้วแต่ตกลงกับทางช่างทำผม
Leave a Reply