1. กำหนดงบประมาณโดยรวม
อาจใช้วิธีการสอบถามจากเพื่อนสนิท หรือญาติพี่น้องที่เคยจัดงานไปแล้วไม่เกิน 2-3 ปี โดยเป็นงานที่มีคุณภาพใกล้เคียงกับที่คู่เราตั้งใจจะจัด เพื่อให้ได้ตัวเลขคร่าวๆมาก่อนว่าเป็นงบที่คู่เราไหวไหม แล้วจึงค่อยมาปรับเป็นตัวเลขที่เหมาะกับคู่ของเราอีกที
2. ประเมิณค่าใช้จ่ายหลักในงานแต่งงาน
โดยสามารถงบประมาณเป็นเปอร์เซ็นต์คร่าวๆได้ ดังนี้
1. สถานที่จัดงาน 40% : ค่าเช่าสถานที่, ค่าอุปกรณ์ในพิธีการต่างๆ, อาหารและเครื่องดื่ม ฯลฯ
2. ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว 15% : ชุดแต่งงาน, แต่งหน้า-ทำผม
3. ดอกไม้และงานตกแต่ง 15% : ดอกไม้, แบคดรอป, แสง ฯลฯ
4. ถ่ายภาพ 10% : ช่างภาพนิ่ง, ช่างภาพเคลื่อนไหว, พรีเวดดิ้ง, พรีเซนเทชั่น
5. การ์ดและของชำร่วย 2%
6. วงดนตรี/ความบันเทิง 5% : นักดนตรี, เครื่องเสียงเพิ่มเติม, พิธีกรดำเนินรายการ, โฟโต้บูธ ฯลฯ
7. เดินทางและที่พัก 1% : ที่จอดรถเพิ่มเติม, ห้องพักเพิ่มเติม
8. เสริมความงาม 5% : ดูแลผิวพรรณของบ่าวสาวก่อนงานแต่ง
9. แหวนแต่งงาน 7%
หมายเหตุ: การจัดสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านบนนี้ไม่ใช่ค่ามาตรฐานแต่เป็นการจัดสัดส่วนจากประสบการณ์ของผู้เขียนเท่านั้น บ่าวสาวสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของคู่ตนเอง
3. งบสำรอง
สำหรับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดหรือมีการเปลี่ยนแปลง ให้คำนวนเพิ่มเติมประมาณ 5-10% ของงบประมาณทั้งหมด
4. บันทึกค่าใช้จ่าย
เราแนะนำให้ใช้ Ease Planner เพื่อประเมิณงบประมาณและลงบันทึกค่าใช้จ่าย รวมถึงรายการชำระเงินทั้งหมดของงาน
Ease Planner จะช่วยคุณประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมดของงาน โดยสามารถแบ่งออกเป็นหมวดหมู่และคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ รวมถึงจดบันทึกค่าใช้จ่ายและรายการค้างชำระ ทำให้คู่บ่าวสาวเห็นค่าใช้จ่ายรวมของทั้งงาน สามารถควบคุมงบได้อย่างมีประสิทธิภาพ