ของชำร่วย

ขั้นตอนแรกของการเตรียมงานในส่วนของของชำร่วยคือการกำหนดงบประมาณ เพื่อให้ตัวเลือกแคบลงและไม่ทำให้งบประมาณโดยรวมบานปลาย และเมื่อกำหนดงบประมาณได้แล้ว ก่อนที่เราจะไปหาข้อมูลตัวเลือกเพิ่มเติมเราควรทราบก่อนว่าจำนวนของที่เราจะสั่งคือจำนวนเท่าไร เพื่อให้การติดต่อสอบตามข้อมูล รายละเอียด รวมทั้งราคาไม่สะดุด โดยจำนวนของที่เราจะสั่งจะทราบได้จากการจดรายชื่อแขกมาตั้งแต่ตอนต้นที่เราเริ่มเตรียมงานนั่นเอง

เลือกตามธีมงาน บางงานที่มีธีมในการจัดงานค่อนข้างชัดเจน บ่าวสาวสามารถเลือกของชำร่วยโดยมีเกณฑ์ในการเลือกเป็นธีมของงานก็ได้ เพื่อให้ภาพรวมของงานเข้ากันทั้งหมด เช่น จัดงานธีมทะเล เลือกของชำร่วยเป็นสบู่รูปสัตว์ทะเล หรือจัดงานธีมรักษ์โลก เลือกของชำร่วยเป็นต้นไม้จริง เป็นต้น

เลือกจากประโยชน์ใช้สอย เป็นเกณฑ์ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมมาก บ่าวสาวหลายคู่ยอมทุ่มงบประมาณกับของชำร่วยเลือกของคุณภาพดีเพราะอยากให้ของชำร่วยที่แขกได้รับไปสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง เช่น ถุงผ้า ที่วางโทรศัพท์ กระเป๋าใส่เครดิตการ์ด แท็กกระเป๋าเดินทาง เป็นต้น แต่มีคำแนะนำเล็กน้อย หากเลือกแล้วว่าอยากให้แขกนำไปใช้งานได้จริง อย่าสกรีนโลโก้ หรือเลเซอร์ หรือทำด้วยวิธีการอื่นใดให้มีชื่อหรือโลโก้ของบ่าวสาวอยู่บนของชำร่วย หรือถ้ามีก็อย่าให้เด่นจนเกินไป แนะนำให้มีไว้ที่แพ็คเกจที่ใส่ของชำร่วยเท่านั้น เพราะลองคิดดูว่าถ้าเป็นเราได้แท็กกระเป๋าเดินทาง หรือกระเป๋าใส่เครดิตการ์ดที่มีชื่อของคนอื่นอยู่ เป็นเราก็คงไม่นำไปใช้จริง

เลือกเป็นของที่ระลึก ใครที่ไม่อยากให้แขกในงานได้ของชำร่วยไปแล้วนำไปทิ้ง หรือวางลืมทิ้งไว้สามารถเลือกของชำร่วยที่มีมูลค่าทางใจ หรือมีมูลค่าในตัวเอง เช่น เหรียญที่ระลึกต่างๆ แบงค์เก่าอย่างแบงค์สิบ หรือจะเป็นรูปถ่ายของแขกกับบ่าวสาวที่หน้าแบคดรอป (ได้หน้างานทันที) เป็นต้น รับรองว่าจะไม่มีแขกคนไหนวางทิ้งขว้างอย่างแน่นอน

เลือกของชำร่วยที่ได้ร่วมทำบุญ เดี๋ยวนี้มีหลายมูลนิธิเลยที่ทำของที่ระลึกขึ้นมาที่สามารถนำไปใช้เป็นของชำร่วยในงานแต่งงานได้ กลายเป็นกิมมิคเล็กๆของงานที่แขกได้ทราบก็จะรู้สึกอิ่มใจตามไปด้วย

DIY : บ่าวสาวบางคู่อยากทำของชำร่วยให้แขกด้วยตัวเองเพื่อให้แขกประทับใจ หรือจะเพื่อประหยัดงบก็แล้วแต่เหตุผลของแต่ละคู่ แต่ก่อนจะตัดสินใจเลือกทำอยากให้ลองประเมินให้ดีก่อนว่าของที่เราจะทำเกินความสามารถเราหรือไม่หากต้องทำจำนวนมาก วัสดุอุปกรณ์เราพร้อมไหม ถ้าต้องซื้ออุปกรณ์ใหม่เพื่อมาทำของชำร่วยแค่งานเดียวแล้วไม่ได้ใช้งานต่อ จะคุ้มค่าทั้งเวลาและจำนวนเงินที่เสียไปไหม หรือของชำร่วยบางอย่างที่ต้องทำในเวลาใกล้ๆงานเท่านั้น เราเตรียมกันเองจะทันหรือไม่ เพราะอย่าลืมว่าบ่าวสาวก็มีหลายสิ่งที่ต้องเตรียมในเวลาใกล้ๆงาน เช่น เลือกทำขนมเป็นของชำร่วย ซึ่งไม่สามารถทำเตรียมไว้ล่วงหน้าได้นานๆ แล้วถ้าใกล้ๆงานเกิดยุ่งไม่มีเวลาทำจะทำอย่างไร หรือทำเสร็จไม่ทันจะทำอย่างไร เป็นต้น จะเห็นว่าการทำของชำร่วยด้วยตนเองไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนที่ไม่ได้ทำเป็นอาชีพ จึงควรคิดและไตร่ตรองให้ดีก่อน 

ใช้ร้านมืออาชีพ : หมายถึงการเลือกซื้อของชำร่วยกับร้านที่ทำด้านนี้โดยตรง ข้อดีคือมีตัวเลือกให้เราเลือกเยอะ มีทั้งตามงบที่เราตั้งไว้ ตามธีมงานของเรา หรือจะตามประโยชน์ใช้สอยก็มีให้เลือกหมด เราเองก็ไม่ต้องเสียเวลาไปเตรียมหรือลงมือทำด้วยตัวเอง เพราะว่ามีอีกหลายอย่างให้บ่าวสาวต้องเตรียมในงานแต่งงาน และสิ่งสำคัญที่บ่าวสาวอาจจะนึกไม่ถึงคือเรื่องของแพ็คเกจของของชำร่วย ที่หากเราเตรียมเองอาจจะได้ไม่สวยเหมือนที่ร้านทำ หรือทำได้สวยแต่ต้นทุนที่เราต้องเสียก็อาจจะสูงมากได้

บ่าวสาวบางคู่ที่คุ้นเคยกับการสั่งสินค้าจากต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศจีนอาจจะมีคำถามว่า 

ถ้าเราสั่งของชำร่วยจำนวนเยอะๆเราสั่งจากจีนเองจะถูกกว่าไหม จะคุ้มกว่าซื้อจากร้านในไทยรึเปล่า เพราะของบางอย่างดูก็รู้ว่าสั่งมาจากจีน คำตอบก็คือสามารถทำได้ หากบ่าวสาวมีร้านที่เคยใช้บริการอยู่แล้วและไว้ใจได้ ถ้าเป็นแบบนั้นสามารถสั่งได้เลย แค่เช็คเรื่องระยะเวลาการขนส่งกับเรื่องแพ็คเกจของของชำร่วยให้ดีเท่านั้น แต่หากไม่เคยสั่งมาก่อน ไม่มีร้านที่เคยใช้ จะต้องลองสั่งจำนวนไม่กี่ชิ้นมาเพื่อดูคุณภาพก่อน ถ้าดีแล้วค่อยสั่งจำนวนเยอะอีกที อันนี้ไม่ค่อยแนะนำให้ทำเพราะมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง เพราะอย่างที่รู้กันว่าการสั่งของจากจีนถ้าให้ราคาถูกจะต้องเป็นการขนส่งทางเรือซึ่งจะต้องรอสินค้าเป็นเวลานาน ยิ่งสั่ง 2 รอบยิ่งต้องเผื่อเวลานานมากๆ และการสั่งรอบแรกจำนวนน้อยเพื่อดูคุณภาพก่อน ถึงแม้สินค้าที่ได้มาในรอบแรกคุณภาพจะดี ก็ใช่ว่ารอบสองที่สั่งมาจำนวนเยอะจะคุณภาพดีครบทั้งล็อตตามไปด้วย เอาแน่เอานอนไม่ได้เลย หากสั่งมาแล้วสินค้ามีปัญหาจำนวนมาก ถึงร้านจะรับผิดชอบด้วยการส่งเปลี่ยนให้ก็อาจจะมาไม่ทัน ไหนจะปัญหาเรื่องแพ็คเกจอีก หากสินค้าที่ได้มาไม่มีแพ็คเกจให้ ต้องมาสั่งทำแพ็คเกจเพิ่ม ทำไปทำมาราคาอาจจะไม่ต่างกับที่สั่งในประเทศไทย แต่ความวุ่นวายต่างกันมากเลยทีเดียว ดังนั้นจึงอยากให้บ่าวสาวลองเช็คราคาให้ดีก่อน ถ้าราคาไม่ต่างกันมากแลกกับความสะดวกและลดความเสี่ยง การใช้บริการร้านในประเทศก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

ก่อนทำการสั่งสินค้าอย่าลืมเช็คระยะเวลาการผลิตให้ดี แนะนำว่าถ้าของชำร่วยเป็นสิ่งที่เก็บไว้ได้นานก็ควรนัดเวลาผลิตสินค้าให้เสร็จล่วงหน้าอย่างน้อย 3 อาทิตย์ก่อนวันงาน เผื่อว่าเกิดปัญหาไม่คาดคิดขึ้นจะยังได้พอมีเวลาแก้ไขได้ นอกจากระยะเวลาการผลิตแล้วอย่าลืมสอบถามร้านด้วยว่าส่งจากที่ไหนใช้เวลาในการส่งถึงเราประมาณกี่วัน เราจะได้คำนวณเวลาได้ถูกต้อง

จำนวนของชำร่วยที่จะสั่งขึ้นอยู่กับลักษณะในการแจกหรือให้แขกในงาน ดังนี้

1. ให้ของชำร่วยตามซอง เนื่องจากการให้ของชำร่วยมีให้เพื่อเป็นการขอบคุณแขกที่ให้ซองช่วยงานบ่าวสาว ถ้าเป็นการให้ลักษณะนี้บ่าวสาวสามารถสั่งของชำร่วยเท่ากับจำนวนการ์ดที่สั่ง หรือจำนวนการ์ดที่แจกจริงได้เลย แต่มีข้อควรระวังสำหรับแขกที่เชิญด้วยการ์ดอิเล็กทรอนิกส์อย่าลืมนับจำนวนรวมเข้าไปด้วย เมื่อได้จำนวนรวมของการ์ดจริงและการ์ดอิเล็กทรอนิกส์แล้วบ่าวสาวอาจเผื่อไว้อีกนิดหน่อยประมาณ 5-10% สำหรับแขกที่หลงลืมไป หรือไปเชิญหลังจากที่สั่งของชำร่วยไปแล้วก็ได้

2. ให้ของชำร่วยกับแขกทุกคนที่มาร่วมงาน บางงานของชำร่วยอาจจะไม่ได้มีราคาสูงมาก และสามารถเก็บไว้ใช้ต่อได้หากแจกไม่หมด เช่น เจลล้างมือ สมุดโน๊ต ขนมคุ้กกี้ เป็นต้น ถ้าเป็นการแจกลักษณะนี้บ่าวสาวอาจจะต้องสั่งเผื่อเยอะหน่อย เพราะเราไม่สามารถคำนวณจำนวนผู้ติดตามได้อย่างเป๊ะๆอย่างแน่นอน แต่ถ้าเราทำการบ้านเรื่องการจดรายชื่อแขกมาอย่างดีตามที่แนะนำไว้ เราก็พอจะประเมินจำนวนแขกสูงสุดที่จะมาร่วมงานของเราได้ ก็สั่งตามจำนวนนั้นได้เลย และเผื่อขึ้นไปอีกสัก 5-10% ก็พอ