แจ้งช่างภาพและช่างวีดีโอถึงความต้องการต่างๆ

เหตุผลที่เราแนะนำให้พูดคุยกับช่างภาพและช่างวีดีโอของคุณก่อนที่จะถึงวันงาน เพื่อที่จะสามารถปรับจูนความต้องการของบ่าวสาวให้ตรงกันกับทีมงาน รวมถึงพูดคุยถึงพิธีการต่างๆที่จะเกิดขึ้นในระหว่างวัน ซึ่งโดยส่วนมากแล้วทีมงานที่มีประสบการณ์จะสามารถให้คำแนะนำในส่วนของการถ่ายภาพ เผื่อในกรณีที่บ่าวสาวจัดพิธีการไว้ไม่เหมาะสมต่อการถ่ายภาพหรือวีดีโอ ตรงจุดนี้จะช่วยปรับจูนความเข้าใจของทีมงานเพื่อที่จะสามารถทำงานออกมาให้ตรงความต้องการของบ่าวสาวให้ได้มากที่สุด

อ่านต่อ..

ในเรื่องของสไตล์การถ่ายภาพและวีดีโอ ถ้าบ่าวสาวเลือกทีมงานเพราะชอบในผลงานและสไตล์ของทีมงานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การพูดคุยเรื่องสไตล์การถ่ายภาพก็อาจจะไม่ค่อยจำเป็นสักเท่าไหร่

แต่กลับกัน บ่าวสาวบางคู่อาจจะจำเป็นต้องเลือกทีมงานที่ตัวเองไม่ได้ชื่นชอบในผลงานมากที่สุด ด้วยเหตุผลเพราะว่าทีมที่ตัวเองชอบในผลงานคิวเต็มไปแล้ว การพูดคุยเพื่อแจ้งความต้องการของบ่าวสาวในส่วนของสไตล์ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นกัน

1. สิ่งที่ควรจะถามให้ชัดเจน คือ ทีมงานจะมาถึงสถานที่กี่โมง และพร้อมถ่ายรูปหรือวีดีโอตอนกี่โมง โดยทั่วๆไปทีมงานจะไปถึงก่อนเวลาประมาณ 30 นาทีเพื่อเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมสำหรับการทำงาน โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือบ่าวสาวอาจจะปรับจูนช่วงเวลาให้เหมาะกับพิธีการของแต่ละคู่

2. แจ้งหมายเลขห้องพักเพื่อให้ทีมงานสามารถขึ้นมาหาบ่าวสาวได้บนห้องโดยไม่ต้องโทรคุยกันในตอนเช้า เพราะส่วนมากแล้วเจ้าสาวจะแต่งหน้าอยู่ ซึ่งก็อาจจะทำให้ไม่สะดวกในการตอบไลน์หรือรับสาย การแจ้งหมายเลขห้องตั้งแต่เช็คอินก็จะทำให้ทีมงานสามารถขึ้นไปหาคู่บ่าวสาวบนห้องได้เลยโดยไม่เสียเวลา 

3. พูดคุยลำดับพิธีการทั้งหมดกับทีมงาน อาจจะใช้วิธีการส่งไฟล์ PDF  ให้ทีมงานก่อนล่วงหน้า แล้วบ่าวสาวค่อยโทรหาเพื่อทำการพูดคุยลำดับพิธีการอีกที ทางภาพนิ่งและวีดีโออาจจะมีความเห็นที่ไม่ตรงกันบ้างในบางส่วน แต่โดยส่วนมากทีมงานที่มีประสบการณ์จะสามารถให้ข้อมูลได้ว่าบ่าวสาวควรจะมีข้อควรระวังตรงจุดไหนบ้าง เพื่อที่จะทำให้ภาพถ่ายและวีดีโอออกมาสวยงามที่สุด 

4. ถ้าบ่าวสาวมีความกังวลส่วนตัว เช่น แขนใหญ่ หรือ มีเหนียง ตรงจุดนี้อาจจะแจ้งกับทีมงานล่วงหน้า เพื่อให้แต่ละทีมสามารถแจ้งกับทีมงานทุกคน เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงและป้องกันปัญหาเฉพาะบุคคลตรงจุดนี้ 

5. ในกรณีที่บ่าวสาวนัดเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวถ่ายรูป Group shot เราจะแนะนำให้นัดเพื่อนๆล่วงหน้า 15 นาที ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าบ่าวสาวจัดตารางให้ทีมงานถ่ายรูปบ่าวสาวกับเพื่อนๆไว้ตอน 8 โมงเช้า เราจะแนะนำให้นัดเพื่อนๆ ณ สถานที่ถ่ายรูปตอน 7:45 น.  ยิ่งเพื่อนเจ้าสาวมีจำนวนมากก็ควรจะเผื่อเวลาให้มากตามขึ้นไปด้วย

6. ถ้ามีบุคคลสำคัญที่อยู่นอกเหนือจากในพิธีการต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น พี่เลี้ยง หรือ แม่นม ของบ่าวสาว  โดยธรรมชาติแล้ว พี่เลี้ยงซึ่งไม่ใช่คนในครอบครัวจะไม่กล้าเข้ามาหาเจ้าบ่าวเจ้าสาวสักเท่าไหร่ เพราะเหตุการณ์จริงมีแต่คนเข้าไปรุมหาบ่าวสาว เค้าก็จะไปนั่งหลบอยู่ในมุมของเขาซะมากกว่า ถ้าเจ้าบ่าวเจ้าสาวอยากให้ทีมงานช่วยถ่ายรูปหรือวีดีโอบุคคลในกลุ่มนี้ อาจจะต้องแจ้งทีมงานล่วงหน้าเพื่อที่จะสามารถเก็บภาพได้อย่างที่ตั้งใจไว้ ซึ่งจะแตกต่างจากบุคคลที่เป็นกลุ่มอื่นๆ ที่จะมีดอกไม้ติดหน้าอก ทำให้ทีมงานสามารถจะรู้ได้เลยว่าคนนี้เป็นคนสำคัญที่ควรจะมีภาพถ่ายคู่กับบ่าวสาว

7. สอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่ต้องอยู่ถ่ายงานเกินเวลา ว่ามีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ และทีมงานจะอยู่ได้ถึงกี่โมง ซึ่งในบางกรณีถ้าทีมงานมีงานต่อที่อื่น เขาอาจจะไม่สามารถอยู่เพื่อถ่ายล่วงเวลาให้ได้ ถึงแม้ว่าคุณจะยอมจ่ายค่าล่วงเวลาก็ตาม ฉะนั้นการบริหารจัดการเวลาที่ดี จะช่วยทำให้คุณสามารถถ่ายรูปกับแขกได้ครบทุกท่าน และมีเวลาเหลือพอที่จะให้ทีมงานสามารถจะปั้นช๊อตหรือหามุมสวยเป็นพิเศษให้กับบ่าวสาวได้ด้วย

การที่บ่าวสาวมีโอกาสได้พูดคุยกับทีมงานก่อนถึงวันงาน จะช่วยให้ความเข้าใจของทั้งสองฝ่ายตรงกันมากขึ้น และช่วยลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นหน้างาน แต่ที่สำคัญไปมากกว่าการพูดคุยคือการเตรียมข้อมูลของบ่าวสาวเพื่อที่จะส่งให้ทีมงานต่างๆให้ช่วยแนะนำในจุดที่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาได้

ยกตัวอย่างเช่นการเผื่อเวลาในการถ่ายภาพไว้แค่ 5 นาทีอาจจะไม่เพียงพอสำหรับช่างภาพที่จะทำผลงานได้ดีที่สุด แต่การเผื่อเวลาจนเยอะเกินไปก็อาจจะทำให้เวลาสำหรับพิธีการต่างๆไม่เพียงพอ ทั้งนี้ประสบการณ์ของทีมงานในแต่ละส่วนอาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกัน ช่างภาพก็อยากได้ภาพที่สวยที่สุด ออแกไนซ์หรือทีมงานรันคิวก็อยากให้งานดำเนินไปได้อย่างไม่มีปัญหาและตรงกำหนดการมากที่สุด การที่ประสานมีโอกาสได้พูดคุยและแจ้งความต้องการของตนเองกับทีมงานก่อน จะช่วยให้ทีมงานทุกส่วนสามารถเข้าใจความต้องการของบ่าวสาวได้ดีที่สุด